ละครย้อนหลัง Iphone , Android โหลดเร็ว

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง โดยในปีนี้ วันมาฆบูชา 2558 ตรงกับวันพุธ 4 มีนาคม วันนี้กระปุกดอทคอม จึงนำสถานที่ไหว้พระขอพรในวันมาฆบูชามาแนะนำกันค่ะ

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง โดยในปีนี้ วันมาฆบูชา 2558 ตรงกับวันพุธ 4 มีนาคม วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำสถานที่ไหว้พระขอพรในวันมาฆบูชามาแนะนำกันค่ะ
 
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว พระอารามใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาที่สำคัญ ตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2327 และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1-9 ตลอดทุกรัชกาล ภายในพระอุโบสถและระเบียงรอบวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามมาก ที่สำคัญเป็นที่ประดิษฐาน พระมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระคู่บ้านคู่เมืองของไทย นอกจากนี้ยังมีประดิษฐานอื่น ๆ ที่สวยงามและมีประวัติมายาวนาน โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.


วัดสระเกศและภูเขาทอง กรุงเทพมหานคร

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง ริมคลองมหานาค และคลองรอบกรุง เดิมเป็นวัดเก่าแก่โบราณในสมัยอยุธยา ชื่อว่า "วัดสะแก" ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอารามในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดสระเกศ" ในสมัยที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชนั้น ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา โดยมีหลักฐานอ้างถึง คือ พระราชวิจารณ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี ความว่า เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนาน เมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. 2325

          ส่วนเจดีย์ภูเขาทองนั้นเริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้าง พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง โดยทรงเลียนแบบมาจากภูเขาทองในสมัยกรุงศรีอยุธยาและทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จภายในรัชกาลของพระองค์ จนมาถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ในที่สุดการก่อสร้างทั้งหมดแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รับพระราชทานนามว่า "สุวรรณบรรพต" มีความสูง 77 เมตร บนยอดสุวรรณบรรพตเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์ เรียกได้ว่าเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ในเวลา 08.30-17.00  น. ของทุกวัน ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชม


นมัสการพระบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          ในวันมาฆบูชานี้ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมนมัสการรอยพระพุทธพลวง เขาคิชฌกูฏ ประจำปี 2558 ในระหว่างวันที่ 19 มกราคม 2558 ถึง 19 มีนาคม 2558 ณ เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต โดยภายในงานมีการจัดบวงสรวงเทวดาอารักษ์ พิธีปิดทองรอยพระพุทธบาท และการจัดเดินป่าขึ้นไปสู่ยอดเขาคิชฌกูฏ งานนี้เป็นงานประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานานหลายปี โดยมีความเชื่อว่าผู้ที่เดินขึ้นไปยอดเขาซึ่งมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่นั้นจะได้บุญสูง ปัจจุบันมีรถบริการนำประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ได้สะดวกยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ในช่วงวันมาฆบูชาของทุกปีจะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืนเป็นจำนวนมาก โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ที่
เฟซบุ๊ก เขาพระบาทพลวง จันทบุรี และ เฟซบุ๊ก กองทุนนิธิพระพุทธบาทพลวง


วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          วัดม่วง ตั้งอยู่ในอำเภอวิเศษชัยชาญ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมาถูกข้าศึกเผาจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง จนเมื่อปี พ.ศ. 2525 หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ ได้ธุดงค์มาปักกรดบริเวณนี้ และบูรณะวัดม่วงขึ้นมาใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ท่านได้ว่างศิลาฤกษ์เพื่อก่อสร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูง95 เมตร โดยให้พระนามอย่างเป็นทางการว่า "พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า "หลวงพ่อใหญ่" และนอกจากองค์พระใหญ่แล้ว ในบริเวณวัดยังมีสิ่งอื่น ๆ น่าสนใจ เช่น วิหารที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันกร ที่มีความยิ่งใหญ่และสง่างามเป็นอย่างยิ่ง, "วิหารแก้ว" มีพระพุทธรูปเนื้อเงินแท้ประดิษฐานเป็นพระประธาน ด้านข้างรายรอบด้วยรูปหล่อทองเหลืองของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง และ "พระอุโบสถ" ที่ตั้งอยู่กลางดอกบัวขนาดยักษ์ ซึ่งรอบ ๆ อุโบสถประดิษฐานรูปปั้นเหมือนของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศ


วัดพราหมณี จังหวัดนครนายก

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต
ภาพจาก ททท.

          วัดพราหมณี ตั้งอยู่ที่หมู่ 9 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง ซึ่งเป็นประดิษฐาน "หลวงพ่อปากแดง" พระพุทธรูปเก่าแก่ทรงเครื่องดอกพิกุล พระโอษฐ์แดง โดยเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ชาวลาวอพยพได้อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไปมาก ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 08 1384 8522


วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          วัดโสธรวรารามวรวิหาร อยู่ในเขตเทศบาลเมือง ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพุทธโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวเมืองเคารพนับถือ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ หายเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง

          ตามประวัติเล่าว่าเป็นพระพุทธรูปปาฏิหาริย์ลอยทวนน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ สันนิษฐานว่าตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2313 สมัยต้นกรุงธนบุรี แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปหล่อทองสัมฤทธิ์ปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ รูปทรงสวยงามมาก แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะมีผู้มาลักพาไป จึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะดังที่เห็นในปัจจุบัน ทุกวันนี้จะมีผู้คนต่างมานมัสการปิดทองหลวงพ่อโสธรกันเป็นจำนวนมาก พระอุโบสถหลังใหม่ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์  และเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2530 เป็นแบบรัตนโกสินทร์ประยุกต์ ภายในประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จริง เปิดให้เข้าชมทุกวันระหว่างเวลา 08.00-16.00 น.

          ใกล้ ๆ กันมี "วิหารจำลอง" ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์จำลอง เนื่องจากทางคณะกรรมการวัดมีมติให้รื้อพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งมีสภาพทรุดโทรมและคับแคบ แล้วสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ โดยได้อัญเชิญพระพุทธโสธรองค์จำลองไปประดิษฐานไว้เพื่อเปิดให้ประชาชนได้นมัสการตามปกติ เปิดให้นมัสการวันธรรมดาระหว่างเวลา 07.00-16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ระหว่างเวลา 07.00-17.00 น.


พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          พุทธมณฑล ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา มีเนื้อที่ 2,500 ไร่ สร้างขึ้นเพื่อฉลองวาระกึ่งพุทธกาล เมื่อ พ.ศ. 2500 และมีพระพุทธรูปปางลีลาประจำพุทธมณฑล เรียกว่า "พระศรีศากยะทศพลญาณ" เป็นพระประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ ซึ่งออกแบบโดย ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี พระพุทธรูปนี้มีความโดดเด่นทางผ้าจีวรที่พลิ้วเหมือนจริง โดยพระพุทธรูปนี้สร้างเสร็จและฉลอง เมื่อ พ.ศ. 2525 คราวสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ทั้งนี้พุทธมณฑลในปัจจุบันนอกจากจะเป็นศูนย์รวมการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาและจัดประเพณีกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปพักผ่อนได้อีกด้วย


เวียนเทียนกลางน้ำ ณ กว๊านพะเยา

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต
ภาพจาก ททท.

          วัดติโลกอาราม ตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา เป็นวัดที่มีอายุยาวนานกว่า 500 ปี จากหลักฐานศิลาจารึกที่ขุดพบบริเวณวัดติโลกอาราม ทราบว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่พระเจ้าติโลกราชแห่งราชอาณาจักรล้านนาเมืองเชียงใหม่ โปรดให้พระยายุทธิษถิระ เจ้าเมืองพะเยา สร้างขึ้นในราวปี พ.ศ. 2019-2029 เป็นวัดที่จมอยู่ในกว๊านพะเยามานานกว่า 68 ปี สาเหตุที่จมน้ำเนื่องจากในปี พ.ศ. 2482 กรมประมงสร้างประตูกั้นน้ำในกว๊านพะเยาเพื่อกักเก็บน้ำ จึงทำให้กว๊านพะเยาที่แต่เดิมเป็นชุมชนโบราณและมีวัดอยู่เป็นจำนวนมากต้องจมน้ำในที่สุด ดังนั้นทางจังหวัดพะเยาจึงได้อัญเชิญ "หลวงพ่อศิลา" วัดติโลกอาราม มาประดิษฐานไว้ ณ จุดเดิมกลางกว๊านพะเยา เพื่อให้ประชาชนชาวพะเยาและนักท่องเที่ยวได้ล่องเรือพายชมทิวทัศน์กว๊านพะเยาพร้อมกับกราบนมัสการหลวงพ่อศิลาที่วัดติโลกอาราม

          ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือพายได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. โดยทางชมรมเรือพายแจวจังหวัดพะเยา จะคอยให้บริการเรือพายและจักรยานน้ำสำหรับทุกท่านอยู่ที่ท่าเรือกว๊านพะเยา ระยะเวลาในการล่องเรือพายจากท่าเรือไปถึงวัดติโลกอารามใช้เวลาไป-กลับ 15 นาที สามารถติดต่อบริการล่องเรือได้ทุกวันที่ ชมรมเรือพายแจวกว๊านพะเยา โทรศัพท์ 08 9433 7311 และในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา ทางจังหวัดพะเยาจะจัดให้มีการเวียนเทียนกลางน้ำรอบพระธาตุเจดีย์วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา ซึ่งถือได้ว่าเป็นกิจกรรมเวียนเทียนกลางน้ำหนึ่งเดียวในโลกที่กว๊านพะเยา


วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต
ภาพจาก nakhonsiawesome.com

          วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชั้นวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ  เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และประเทศไทย เปรียบเสมือนศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนชาวใต้ มีพระบรมธาตุเจดีย์อันยิ่งใหญ่ที่มีส่วนยอดเจดีย์เป็นทองคำเป็นภาพสะท้อนแห่งความศรัทธาของชาวพุทธที่มีต่อการสร้างพระบรมธาตุ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุหรือพระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้าย)

          ภายในวัดพระมหาธาตุฯ มีวิหารที่มีความสำคัญหลายหลังประดิษฐานอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระวิหารหลวง มีความงามตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา นอกจากนั้นยังมี วิหารสามจอม วิหารที่มีพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ชื่อว่า "พระศรีธรรมาโศกราช" ประดิษฐานอยู่ วิหารพระมหาภิเนษกรมน์ (วิหารพระทรงม้า) ส่วนวิหารเขียนและวิหารโพธิ์ลังกานั้นเป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่พุทธศาสนิกชนถวายเป็นพุทธบูชา ส่วนฐานขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ (วิหารทับเกษตร) มีซุ้มถึง 22 ซุ้ม แต่ละซุ้มมีหัวช้างยื่นออกมารองรับพระบรมธาตุเจดีย์ ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการค้ำจุ้นพระพุทธศาสนาให้มั่นคง นอกจากนี้ยังมีปริศนาธรรมให้ค้นหาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย ทั้งนี้ผู้มาเยือนที่นี่นิยมนำผ้าขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยมีไกด์พาชม 08.00-17.00น.



วัดพระสิงห์วรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          เป็นวัดสำคัญในประวัติศาสตร์แห่งแผ่นดินล้านนานับแต่อดีต เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง วัดพระสิงห์วรวิหารเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ ภายในมี "พระสิงห์" หรือ "พระพุทธสิหิงค์" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณศิลปะเชียงแสนโบราณ ปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร หล่อด้วยสำริดหุ้มทอง  สูง 79 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 700 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง" อีกทั้งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนาประดิษฐานอยู่

          นอกจากนี้ภายในวัดยังมีวิหารลายคำซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ อีกทั้งมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องสุพรรณหงส์และสังข์ทองซึ่งพบเพียงที่นี่แห่งเดียว นอกจากนี้ยังมีศิลปกรรมอื่น ๆ ที่น่าชม ได้แก่ พระอุโบสถที่ตกแต่งแบบศิลปะล้านนา หอไตรประดับด้วยรูปปูนปั้นเทวดา และเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนา ทั้งนี้ตามความเชื่อพระธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์ถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะโรง (งูใหญ่) หากได้มานมัสการอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งแล้ว จะเป็นมงคลสูงสุดทำให้อายุมั่นขวัญยืน มีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป และเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ชาวเมืองจะอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้แห่ไปตามถนนรอบเมืองเพื่อให้ประชาชนสรงน้ำโดยทั่วกัน


พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          พระธาตุประจำผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ผลจากการขุดค้นทางโบราณคดีลงความเห็นว่า พระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200-1400 ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ ลักษณะของสถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาที่เดียวกันกับปราสาทของขอม และได้ทำการบูรณะเรื่อยมา ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น "วรมหาวิหาร" นอกจากนี้พระธาตุพนมไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครพนมเท่านั้น พระธาตุพนมยังเป็นที่เคารพของชาวไทยภาคอื่น ๆ อีกด้วย ว่ากันว่าถ้าใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น "ลูกพระธาตุ" เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว

วัดห้วยมงคล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วัดห้วยมงคล
          ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อทวด พระนามาภิไธย ส.ก. องค์ใหญ่ หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร ฐานสูง 3 ชั้น นอกจากนี้ยังมีรูปสลักหลวงพ่อทวดแกะจากไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ ให้ประชาชนได้สักการบูชา บริเวณรอบ ๆ องค์พระสามารถมองเห็นทิวเขาล้อมรอบ และเห็นเทือกเขาตะนาวศรีกั้นพรมแดนไทย-สหภาพเมียนม่าร์ โดยเปิดเวลา 05.00-21.00 น.


วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต
ภาพจาก ททท.

          วัดแห่งนี้คือวัดที่มีการค้นพบองค์พระแก้วมรกตหรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธรูปคู่ชาติไทยที่ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ กรุงเทพมหานคร ตามประวัติเล่าว่าเมื่อ พ.ศ. 1897 ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมาเมื่อกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวสร้างด้วยหยกอย่างสวยงามวิจิตร จึงได้สร้างวัดพระแก้วขึ้นเป็นที่ประดิษฐาน ปัจจุบันเมื่อพระแก้วมรกตองค์จริงได้ย้ายไปประดิษฐานที่กรุงเทพฯ แล้ว ชาวเชียงรายได้ร่วมใจกันสร้างองค์ใหม่ขึ้นเป็น "พระหยก" เนื่องในวาระโอกาสมงคลครบรอบ 90 พรรษา ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2533 ประดิษฐานอยู่ในหอพระหยก ที่กำแพงด้านในตกแต่งด้วยภาพวาดเล่าตำนานพระแก้วมรกตกับเรื่องราวการสร้างและอัญเชิญพระหยกเชียงราย

          นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเชียงแสนสวยงาม มีองค์พระประธานที่ชาวเชียงรายเรียกกันว่า "พระเจ้าล้านทอง" เป็นพระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย โดยองค์พระพุทธรูปมีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดของประเทศไทย ในสกุลช่างศิปปาละ ซึ่งพระเจ้าล้านทองนั้นเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก มีผู้แวะเวียนเข้ามาสักการบูชาอยู่เสมอ ส่วนพระเจดีย์ที่โดยฟ้าผ่าแล้วค้นพบพระแก้วมรกตนั้นยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ โดยได้รับการบูรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 5371 1385, 0 5375 1875 เว็บไซต์ watphrakaew-chiangrai.com



วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก

ไหว้พระขอพรวันมาฆบูชา เสริมสิริมงคลชีวิต

          ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเรียกขานกันว่า "วัดใหญ่" หรือ "วัดพระศรี" กันจนติดปาก แม้พระประธานองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในวิหาร คือ" พระพุทธชินราช" ชาวเมืองพิษณุโลกก็นิยมเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ ตามไปด้วย โดยนับเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญของจังหวัด เพราะเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชาวเมืองและชาวไทยทั้งประเทศ ตั้งอยู่ที่ถนนพุทธบูชา ตำบลในเมือง ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองเมื่อปี พ.ศ. 1900

          ภายในวัดสิ่งโบราณสถานโบราณวัตถุล้ำค่ามากมาย ได้แก่ พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว และสูง 7 ศอก ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศ เส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระขนงโก่ง พระเกตุมาลาเป็นเปลวเพลิง พระหัตถ์มีปลายนิ้วทั้งสี่เสมอกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษเรียกว่า ทีฒงฺคุลี ซุ้มเรือนแก้วทำด้วยไม้แกะสลักสร้างในสมัยอยุธยา แกะสลักเป็นรูปมกร (ลำตัวคล้ายมังกร มีงวงคล้ายช้าง) อยู่ตรงปลายซุ้ม และตัวเหรา (คล้ายจระเข้) อยู่ตรงกลาง และมีเทพอสุราคอยปกป้ององค์พระอยู่ 2 องค์ พระมหาธรรมราชาที่ 1 (พญาลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย โปรดให้สร้างขึ้นพร้อมกับ "พระพุทธชินสีห์" และ "พระศรีศาสดา" ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามและวัดบวรนิเวศวิหารตามลำดับ

          พระเหลือ พระยาลิไทรับสั่งให้ช่างนำเศษทองสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา มารวมกันหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดเล็ก เรียกว่า พระเหลือ และพระสาวกยืนอีก 2 องค์ ส่วนอิฐที่ก่อเตาสำหรับหลอมทองได้นำมารวมกันบนฐานชุกชี พร้อมกับปลูกต้นมหาโพธิ์ 3 ต้นบนชุกชี เรียกว่า โพธิ์สามเส้า ระหว่างต้นโพธิ์ได้สร้างวิหารน้อยขึ้นหนึ่งหลัง อัญเชิญพระเหลือกับพระสาวกไปประดิษฐาน เรียกว่า วิหารพระเหลือ โดยคนในท้องถิ่นเชื่อว่าหากได้นมัสการ ก็จะเป็นมงคลโดยเฉพาะนักธุรกิจ พ่อค้า และคนที่อยู่ในแวดวงการเงิน เนื่องจากชื่อ "พระเหลือ" มีความหมายพ้องกับ "เหลือกิน เหลือใช้"

          ทั้งนี้สำหรับข้อมูลต่าง ๆ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย

  แนะนำที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรม เพียบ


        คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ    





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thai.tourismthailand.org
chanthaburi.go.th




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น